ท่านจะเชื่อใครดีระหว่างตำรวจกับทหารเมื่ออ่านข่าวนี้
22 ก.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี รักษาการหัวหน้ากองกิจการพลเรือนมณฑลทหารบก ที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น นำกำลังทหารชุดเฉพาะกิจ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จ.ขอนแก่น เข้าจับกุมบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ภายในอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ถนนมะลิวัลย์ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น โดยสามารถจับกุมเจ้าของบ่อน และนักพนันได้ 37 คน พร้อมของกลางเป็นเงินสด 310,000 บาท และอุปกรณ์เล่นการพนันจำนวนมาก เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าทหารระบุว่า ได้ส่งมอบตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเรือ แล้ว
แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร เพราะมีข่าวออกมาว่า ตำรวจระบุว่าไม่มีการจับกุม และไม่มีการส่งตัวผู้ต้องหาหรือของกลาง แต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผู้กำกับ สภ.หนองเรือ มีหนังสือถึง พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น ชี่แจงว่า ในวันดังกล่าวระหว่าง ร.ต.ท.สัมฤทธิ์ บรรเทา รอง สวป.สภ.หนองเรือ นำกำลังออกตรวจพื้นที่ พบรถตู้ตราสัญลักษณ์ของทหารจอดอยู่หน้าอาคารพาณิชย์ จึงเข้าไปตรวจสอบ พบเจ้าหน้าที่ทหาารและบุคคลชายหญิงหลายราย แต่ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ทหารยศพันโท ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด เข้ามาแจ้งว่าไม่มีอะไร แล้วบอกให้ตนถอนกำลังกลับไป โดยไม่ได้มีการแจ้งว่ามีการจับกุมบ่อนการพนัน และในระหว่างนั้นก็ไม่พบการกระทำผิดกฎหมาย จึงถอนกำลังกลับ
ด้าน พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ กกล.รส.ขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังการเข้าจับกุมบ่อนการพนัน ได้ประสานไปยังผู้กำกับการ สภ.หนองเรือ ให้มารับตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ต่อมาเมื่อ ร.ต.ท.สัมฤทธิ์ รอง สวป. สภ.หนองเรือ พร้อมกำลังเดินทางมาถึง ทางชุดเฉพาะกิจก็พาเข้าไปยังด้านในห้องที่มีการเล่นการพนัน โดยทางตำรวจได้เดินตรวจตราทั้งยังมีการถ่ายภาพไว้ด้วย ซึ่งหลังจากนั้นทางทหารก็ถอนกำลังกลับ เพราะหน้าที่การดำเนินคดีเป็นของตำรวจ
ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก "Thailand Police Story" ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าว โดยอ้างแหล่งข่าววงใน วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุดังนี้
"ใครโกหก"
จากเหตุทหาร มทบ.23 (50 นาย) ถ่ายคลิปผลงานเข้าจับกุมบ่อนพนัน พบนักพนัน 37 คน เงินของกลาง 3 แสนบาท รถอีก 20 คัน แล้วอยู่ๆ ของกลางและนักพนันทั้งหมดก็หายไป โดยทหารอ้างว่าเห็นตำรวจขับรถกระบะคันหนึ่งผ่านมาพอดี จึงมอบทุกอย่างให้ แล้วทหารกับนักข่าวก็กลับไปเลย
วันนี้ มีข้อมูลวงในมาให้วิเคราะห์กันครับ
ฝ่ายตำรวจเองอ้างว่า "เรื่องทั้งหมดนี้ทหารจัดฉากเพื่อจะเอานักข่าวมาประจานทำลายตำรวจ สภ.หนองเรือ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทหารชุดนี้เคยร้องขอให้ตำรวจช่วยทำยอดการจับกุม เพื่อทางทหารชุดนี้จะได้มีผลงานส่ง แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย จึงแค้นและขู่ว่าเดี๋ยวจะมาจัดหนักจัดฉากให้" ซึ่งตำรวจตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าทหารส่งมอบเงิน 3 แสนให้ตำรวจจริง นักข่าวก็อยู่ ทหารก็ตั้ง 50 คน ทำไมไม่มีภาพหรือคลิปขณะมอบเงินให้ตำรวจเลย อีกทั้งเป็นไปไม่ได้เลย ที่ทหารจะจับแล้วรีบกลับ เนื่องจากนักพนันมีเยอะมาก และตามระเบียบผู้จับกุม (ทหาร) ต้องเข้าไปที่โรงพักเพื่อลงชื่อในบันทึกจับกุมร่วมกับตำรวจด้วย เพราะตำรวจไม่ได้เป็นผู้เห็นการกระทำผิดซึ่งหน้า แต่ทำไมทหารกลับไม่ไปลงหลักฐานบันทึกใดๆทั้งสิ้น รีบขับรถกลับไปเลย ซึ่งขณะนี้ฝ่ายตำรวจที่ขับรถผ่านไปเจอ ได้ทำหนังสือชี้แจงไปที่จังหวัดแล้ว ว่าวันนั้นไม่ได้รับเงินของกลางอะไรทั้งสิ้น ขับออกตรวจไปเจอกลุ่มทหาร จึงเข้าไปดู แล้วทหารพันโทหัวหน้าชุดก็บอกไม่มีอะไรน้องแล้วก็ให้แยกย้ายกลับ
แล้วสุดท้ายก็เรียกนักข่าวออกมาทำข่าว แล้วก็พูดว่าตำรวจทำของกลางหาย ซึ่งขณะนี้ทหารไม่สามารถเอาผิดกับตำรวจได้เนื่องจากไม่มีหลักฐาน เสธ.ทหารชุดจับวันนั้น ถึงกับโกรธและพูดในไลน์ว่า "เตรียมตัวไว้ได้เลย คราวหน้าผมไม่เอาไว้แน่ ถ้าผมเจออีกแล้วย้ายตำรวจ สภ.นี้ไม่ได้ ผมจะขอถวายรายงานพระองค์ปลดตัวเอง"
สิ่งที่ กล่าวมาทั้งสิ้นคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่ง Admin เองก็คงไม่ทราบว่าใครโกหก และจะต้องมีการสอบสวนต่อไป
คหสต. ถ้าจับได้บ่อนใหญ่ขนาดนี้ ถ้ามันมีจริงๆ ก็เรียกว่าผิดทั้งสองฝ่ายสิ
ตำรวจผิดที่ปล่อยให้มีบ่อนใหญ่ขนาดนี้ในพื้นที่ของตัวเอง
ส่วนทหาร ถ้าจับได้แล้วก็ต้องนำไปส่งตำรวจ นั่นหมายถึงพาไปมอบที่โรงพักด้วยเพราะตัวเองเป็นผู้จับกุม(ในภาพมีตำรวจไม่ถึงห้านาย)
จะต้องมีการลงชื่อผู้ร่วมจับกุมด้วย ไม่ใช่ส่งกันกลางทางแล้วทางใครทางมัน คนตั้ง 37 คน รถอีก 20-30 คัน เงินอีก 310,000 บ.
(อีกอย่าง ทำไมถึงไม่มีพนักงานสอบสวนไปด้วยซักคน เพราะต้องเป็นคนไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมถ่ายรูปเป้นหลักฐานทำสำนวน)
แล้วของกลางมันหายไปได้ยังไง??
นายตำรวจไม่กี่นายทำให้มันหายไป หรือว่าความจริงแล้วมันไม่มีจริงๆอยู่แล้วตั้งแต่แรกกันแน่?
เรื่องมันจะจบลงยังไง คงต้องรอดูกันต่อไป
ขอให้การสืบสวนสอบสวนครั้งนี้เป็นไปอย่างยุติธรรมและมีแต่ความจริง
คนชั่วมันจะได้โดนเปิดโปงแล้วก็รู้สำนึก... ไม่ใช่เอาดีแต่เข้าตัวเองโยนขี้ให้คนอื่นไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม...
ที่มา : Pantip
ความคืบหน้า ......
สอบซ้ำ"เสธ.พีท"หน.ชุด เค้น10พยาน-ก่อนสรุป หลังสำนวนส่อเค้าพลิก
บิ๊กตู่ฮึ่ม สั่งย้ายหมด ใครมีปัญหาเรื่องบ่อนหนองเรือขอนแก่น ด้านตร.เร่งคลี่คลายคดี ชุดสอบสวนสอบซ้ำเสธ.พีท หัวหน้าชุดจับ ยันจับกุมจริงพร้อมไปแจ้งความดำนเนินคดี 37 ผู้ต้องหาที่เล่นพนันเรียบร้อย ด้านผู้การสืบภาค 4 เผยสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้วนับสิบปาก ไล่ตั้งแต่เหตุการณ์ก่อนจับกุมจนไปถึงขั้นตอนส่งตัวผู้ต้องหาให้ตำรวจ คาดอีกไม่นานรายงานข้อเท็จจริงให้รรท.ผบช.ภาค 4 ได้แน่ ด้านตร.หนองเรือ เตรียมนำ 37 ผู้ต้องหามาดำเนินคดี ด้านบิ๊กตู่ลั่นไม่มีขัดแย้งตำรวจ-ทหาร ขู่ใครมีปัญหาสั่งย้ายหมด
จากกรณีพ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี รรท.หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นบ่อนไพ่ ที่อาคารพาณิชย์ 2 ชั้นเลขที่ 25/210 ถนนมะลิวัลย์ ต.โนนทัน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา จับนักพนันได้ 37 ราย พร้อมของกลางเงินสด 310,000 บาท โดยระบุว่าติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินคดีต่อ แต่กลับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับระบุว่าไม่มีการติดต่อ หรือเข้าจับกุมบ่อนแต่อย่างใด จนกระทั่งมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และพบว่าคดีอาจพลิก เมื่อพบเสี่ยใหญ่ในอ.หนองเรือ ที่สนิทกับบิ๊กมีสี และอาจเกี่ยวพันกับกรณีดังกล่าว ตามที่ข่าวสดนำเสนอไปแล้วนั้น
ความ คืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่ บก.สส.ภ.4 พ.อ.จตุรพงศ์ บกบน รองผอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น พ.อ.ประกิจ ทับทอง รอง ผบ.มทบ.23 และพ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หรือเสธ.พีท รรท.หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น เดินทางด้วยรถตู้สีขาว ของมทบ. 23 ทะเบียน 6112 เข้าพบกับ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภ.4 ตามคำเชิญเพื่อมาสอบถามเรื่องบ่อนขอนแก่น
จากนั้นไปประชุม ต่อที่ห้อง ศปก.บก.สส.ภ.4 เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องบ่อนพนันในเขต อ.หนองเรือ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม นายทหารที่เข้าประชุมเดินออกมาจากห้องประชุมได้เดินออกมา พร้อมกับบอกว่าไม่มีอะไร มาพบปะพูดจากันเท่านั้น
ส่วน พ.ท.พิทักษ์พล กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า ตนมาพบ พล.ต.ต.ชูรัตน์ พร้อมผู้บังคับบัญชา เพื่อมาให้การตามความจริงในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นมาซึ่งไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างได้พูดความจริงหมดแล้ว และไม่สามารถให้สัมภาษณ์กับสื่อได้นอกจากผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
พล.ต.ต. ชูรัตน์กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีทหารเข้าจับบ่อนพนันรายใหญ่ ในเขตพื้นที่ สภ. หนองเรือ เชิญ พ.ท.พิทักษ์พล พร้อมด้วย พ.อ.ประกิจ และพ.อ.จตุรพงศ์ เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ดำเนินการมาแล้ว และสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และรวบรวบข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้น เพื่อสรุปสำนวนเสนอ พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.ผบช.ภ.4 ให้เร็วที่สุด โดยให้ความเป็นกลางและความถูกต้อง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ได้มีสำนวนการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่า 300 แผ่น ที่จะรายงานให้ รรท.ผบช.ภ.4 รับทราบ
พล.ต.ต.ชูรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้เปรียบเป็นเปอร์เซ็นต์ได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ตนต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ยังไม่สามารถบอกสื่อได้ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนไปสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 10 ราย พร้อมกับให้ผู้เกี่ยวข้องพาไปดูสถานที่เปิดบ่อน และชี้สถานที่เข้ามาทางไหน ออกมาอย่างไร จับกุมอย่างไร มีผู้ต้องหาเท่าไร เงินของกลางเท่าไร ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองเรือ อย่างไร ผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงได้ดีมากเป็นประโยชน์กับการสืบสวนสอบสวนที่ดำเนิน การอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเสี่ยคนดังที่สนิทกับบิ๊กมีสียังไม่ได้เข้าพบตำรวจ
ส่วน ที่ สภ.หนองเรือ มีสื่อมวลชนส่วนหนึ่งไปสอบถาม เรื่องพ.ท.พิทักษ์พลได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.จอมพล พรประทุม พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.หนองเรือ
โดยพ.ต.ท.จอมพล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ท.พิทักษ์พลพร้อมนิติกรจังหวัดขอนแก่น มาแจ้งความที่ สภ.หนองเรือ เพื่อให้เป็นคดีอาญาที่ 34/57 แจ้งความกล่าวโทษนางขนิษฐา ติลาจันทร์ เป็นเจ้าของบ่อน และนายวีระศักดิ์ สุริยา เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ส่วนคนอื่นๆ ที่มีการเล่นในวันนั้น จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.ท. จอมพลกล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกนางขนิษฐาและนายวีระศักดิ์ มาพบกับพนักงานสอบสวน พร้อมกับผู้ต้องหาส่วนหนึ่งที่มีภาพถ่ายอยู่ในช่วงทหารเข้าไปจับกุมในวัน นั้น จะต้องมารายงานตัว พร้อมมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่าเหตุการณ์ในวันทหารเข้าไปจับบ่อนที่ อ.หนองเรือ ได้เล่นจริงตามที่มีภาพในสื่อมวลชนหรือไม่ และต้องลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานด้วย ส่วนเรื่องเอาผิดพ.ร.บ.การพนันโดยมีเจ้าของบ้านเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ให้ เป็นเรื่องดุลพินิจของศาล ซึ่งมีทั้งหมด 37 คน ในข้อหาร่วมกันเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
ที่ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีการจับกุมบ่อนที่จังหวัดขอนแก่นและเกิดความขัดแย้งของเจ้า หน้าที่ทหารและตำรวจในพื้นที่ ว่าอยู่ระหว่างการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ทหารก็รายงานมา ตำรวจก็ไปสอบกันมา มีเจ้าหน้าที่อยู่ และมีขั้นตอนการดำเนินงาน ขอว่าอย่าไปเขียนให้พวกเขาทะเลาะเบาะแว้งกัน
เมื่อ ถามว่าจังหวัดขอนแก่นเป็นพื้นที่ที่มีกฎอัยการศึกซึ่งจะทำให้ตำรวจและทหาร เกิดการทะเลาะกันหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีแต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่มีปัญหา จะยุ่งยากอะไร ถ้ามีปัญหาก็สั่งย้ายให้หมด ถ้าทำผิดไม่ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องสั่งย้าย ไม่ต้องไปกังวล ยังมีอีกหลายพันเรื่อง เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำแต่เรื่องบ่อนอย่างเดียว ปลูกป่าก็ทำ ทำงานร่วมกับตำรวจในเรื่องอื่นก็ทำ ก็ไม่เห็นจะมีปัญหา ไปเอาเรื่องเล็กมาเป็นเรื่องใหญ่
ที่มา : ข่าวสด
EmoticonEmoticon