อัยการชี้เรื่องหยุดชะงัก เพราะสตช.ส่งคำขอส่งตัว 'บอส' ผู้ร้ายข้ามแดนแต่ไม่ระบุที่อยู่

อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เผยสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเอกสารคำร้องขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน 'บอส อยู่วิทยา' ผู้ต้องหาขับรถชนตำรวจเสียชีวิตและหลบหนีคดี แต่ในเอกสารไม่ระบุที่อยู่ เบื้องต้น อัยการต่างประเทศได้ทำแบบฟอร์มเอกสารขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว เหลือเพียงระบุที่อยู่เท่านั้น

นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งเอกสารคำร้องขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน ของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีตผู้บังคับหมู่ปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เสียชีวิต เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2555 มาให้อัยการสำนักงานต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในเอกสารดังกล่าวไม่ได้ระบุแหล่งที่อยู่ ประเทศ ที่ผู้ต้องหาหลบหนี ซึ่งอัยการสำนักงานต่างประเทศ ยังคงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะต้องรอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุที่อยู่เป็นหลักแหล่งของผู้ต้องหามาก่อน ถ้าหากตำรวจทราบที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งว่าผู้ต้องหาอยู่ประเทศไหน ก็จะประสานกับประเทศนั้นๆที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อขอตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ส่วนประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็มีช่องทางอื่นในการส่งตัว เบื้องต้นอัยการต่างประเทศได้ทำแบบฟอร์มเอกสารขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไว้หมดแล้ว เหลือเพียงระบุที่อยู่เท่านั้น ซึ่งทางอัยการต่างประเทศได้เร่งรัดให้ตำรวจระบุที่อยู่มา เข้าใจว่าขณะนี้ตำรวจก็เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเช่นกัน
       
ส่วนการติดตามตัว สืบเสาะหาแหล่งที่อยู่เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุย หารือ และประสานงาน กับกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาโดยตลอด ถ้าหากล่าช้าอาจจะไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องได้ เนื่องจากข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2560 ที่จะถึงนี้ แต่ก็ยังเหลือข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีอายุความ15 ปี

ด้านพ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบคดีนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินพังงาเสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังในห้องขังของดีเอสไอ ว่า หลังจากนี้ต้องรอให้การดำเนินการเป็นไปตามขบวนการทางกฎหมาย ซึ่งดีเอสไอไม่สามารถดำเนินการใดๆนอกเหนือจากนี้ได้ ต้องรอทางตำรวจสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นดีเอสไอได้นำหลักฐานทั้งหมดส่งให้ศาลแล้ว ส่วนขบวนการหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจและพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ที่รับผิดชอบ พร้อมยืนยันก่อนหน้านี้ทางดีเอสไอได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเป็นการภายในโดยนำเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 นาย เข้าเครื่องจับเท็จและทำการสอบสวน และได้นำข้อสรุปการสอบสวนดังกล่าวส่งไปให้พนักงานสอบสวนแล้ว โดยเบื้องต้นทราบว่ายังไม่พบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายธวัชชัย แต่หลังจากนี้ ดีเอสไอ ก็พร้อมให้การสนับสนุนทุกกระบวนการ

ขณะที่ นายสุภัทร์ สุทธิมนัส อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงขั้นตอนการส่งคำสั่งของศาลที่ไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตนายธวัชชัย อนุกูล ทราบจากผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนตัดสินว่า ตับแตกร่วมขาดอากาศหายใจ โดยไม่รู้ใครทำให้ตาย หลังจากอ่านคำสั่งไปแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการพิมพ์รายละเอียดคำสั่งฉบับเต็ม ต้องตรวจความถูกต้องของถ้อยคำด้วย ศาลพร้อมจะส่งรายละเอียดคำสั่งพร้อมสำนวนการไต่สวนทั้งหมดให้อัยการภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการสอบสวนเกี่ยวกับการเสียชีวิตเป็นเรื่องที่อัยการและพนักงานสอบสวนจะดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน

ที่มา : VoiceTV