รัฐบาลไทยเตรียมซื้อขีปนาวุธ ฮาร์พูน บล็อค ทูว์ รุ่น RGM-84L จากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยกำลังอยู่ในระหว่างรอการรับรองอย่างเป็นทางการจากสภาคองเกรส ซึ่งได้รับแจ้งจากสำนักงานความร่วมมือความมั่นคงด้านกลาโหมสหรัฐฯ แล้วเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯแถลง วันนี้ (10 ส.ค.) ว่า เห็นชอบแผนเบื้องต้น สำหรับการขายขีปนาวุธฮาร์พูน บล็อค ทูว์ รุ่น RGM-84L มูลค่า 24.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (828 ล้านบาท) ตามที่รัฐบาลไทยร้องขอ
ในแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลไทยได้ยื่นความจำนง ขอซื้อขีปนาวุธดังกล่าวจำนวน 5 ลูก และขีปนาวุธซ้อมยิง ฮาร์พูน บล็อค ทูว์ 1 ลูก ซึ่งจะรวมถึงอุปกรณ์บรรจุ อะไหล่ การซ่อมบำรุง และเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบ รวมถึงคู่มือ เอกสารทางเทคนิค การฝึกฝนบุคลากร และอุปกรณ์สำหรับฝึกซ้อม โดยรัฐบาลสหรัฐฯ และตัวแทนจากบริษัทคู่สัญญา จะเป็นผู้ให้บริการด้านวิศวกรรม ความช่วยเหลือเชิงเทคนิค การขนส่ง และการสนับสนุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้วย
การขายอาวุธที่กำลังอยู่ในระหว่างยื่นเอกสารนี้ จะเอื้อประโยชน์ให้กับการดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยอาศัยการสร้างความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งการที่กองทัพไทยมีแผนจะนำขีปนาวุธไปติดตั้งบนเรือฟริเกตชั้น DW3000 จะมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพในการปกป้องแนวเขตทางทะเลที่สำคัญ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยเคยซื้อขีปนาวุธฮาร์พูน มาแล้ว และจะไม่ประสบปัญหาในการนำขีปนาวุธที่ซื้อใหม่ไปปรับเข้ากับกองทัพแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ระบุว่า การขายอาวุธตามแผน จะไม่ส่งผลกระทบต่อสมดุลทางการทหารในภูมิภาค รวมถึงไม่พบว่าบริษัทโบอิง ซึ่งเป็นคู่สัญญาหลักภาคเอกชน จากเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี เสนอข้อตกลงชดเชย ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายครั้งนี้
หากการซื้อขายเป็นไปตามแผน จะมีการส่งเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลสหรัฐฯ และตัวแทนของบริษัทคู่สัญญา ไปยังประเทศไทย เพื่อประเมินงานด้านเทคนิค ให้การสนับสนุน และดูแลทั่วไปเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปีด้วย โดยจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงลบต่อความพร้อมด้านกลาโหมของสหรัฐฯ แต่อย่างใด
การยื่นขอคำรับรองจากรัฐสภา ถือเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐฯ และไม่ถือเป็นข้อสรุปของการซื้อขาย
ที่มา: BBC
EmoticonEmoticon