" ไผ่ จตุภัทร์ ขอเพื่อนจงหยัดยืน "
เราไม่รู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน ในบางประโยคที่มันได้พูดออกไปต่อหน้าศาลในวันนี้
เราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ ไผ่จะยังยิ้มแบบที่มันเคยยิ้มได้หรือไม่
เราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ ไผ่จะยังยิ้มแบบที่มันเคยยิ้มได้หรือไม่
แต่ขอให้รู้ว่ามีคนมากมาย เชื่อ เคารพ และเข้าใจ ในการตัดสินใจของไผ่
"ไผ่ จตุภัทร์ ขอเพื่อนจงหยัดยืน"
....................................................
สืบพยานคดี 112 'ไผ่ ดาวดิน' #3 : การตัดสินใจครั้งสำคัญ
.
วันนี้ (15 สิงหาคม 2560) ศาลจังหวัดขอนแก่นนัดสืบพยานคดีที่จตุภัทร์หรือ 'ไผ่ ดาวดิน' ถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ จากการแชร์บทความพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์บีบีซีไทยต่อเป็นวันที่ 3 บรรยากาศในห้องพิจารณาคดีวันนี้ผ่อนคลายลงบ้าง ศาลขึ้นบัลลังก์ในเวลาประมาณ 10.00 น. และพิจารณาคดีอื่นก่อนหลังจากนั้นจึงนำป้าย 'พิจารณาลับ' มาติดหน้าห้อง และขอให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องยกเว้นคู่ความและพ่อกับแม่ของจตุภัทร์ออกจากห้องพิจารณาคดี
.
ก่อนเริ่มการพิจารณา ศาลถามจตุภัทร์ว่ายืนยันจะสู้คดีหรือเปล่า เพราะนัดที่แล้วมีการตกลงกันว่าจตุภัทร์จะขอเวลาไปพิจารณาเรื่องแนวทางคดีอีกครั้ง ศาลระบุด้วยว่า การต่อสู้คดีนี้ให้ชนะเป็นเรื่องยาก เพราะองค์พระมหากษัตริย์ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ทีมทนายของจตุภัทร์จึงให้ตัวจตุภัทร์และครอบครัวปรึกษากับศาลเองก่อนจะออกจากห้องไป ขณะที่ศาลก็ขอให้อัยการออกไปรอนอกห้องก่อน
.
การพูดคุยระหว่างจตุภัทร์ ครอบครัว และศาลใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง พ่อของจตุภัทร์เล่าว่า ได้พูดคุยเรื่องความเป็นไปได้ของอัตราโทษหากจตุภัทร์ตัดสินใจรับสารภาพ เมื่อพูดคุยกันเสร็จพ่อกับแม่ก็ออกมาจากห้องเพื่อให้จตุภัทร์มีโอกาสทบทวนและตัดสินใจแนวทางคดีด้วยตัวเอง ขณะที่ศาลก็ออกไปปรึกษากันภายในองค์คณะนอกห้องพิจารณาคดี จตุภัทร์อยู่ในห้องพิจารณาคดีคนเดียวจนถึงเวลาประมาณ 11.00 ศาลก็กลับขึ้นบัลลังก์อีกครั้ง และคุยกับจตุภัทร์สองคน
.
จตุภัทร์ตัดสินใจยอมเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพต่อศาลในที่สุด ศาลสั่งพักการพิจารณาและให้กลับมาฟังคำพิพากษาในช่วงบ่าย
.
ในช่วงบ่าย บรรยากาศค่อนข้างผ่อนคลาย เพื่อนของจตุภัทร์และผู้มาให้กำลังใจราว 20 คนเข้ามานั่งรอฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดี ในเวลาประมาณ 16.00 น. ศาลกลับขึ้นบัลลังก์และแจ้งว่า คดีนี้ได้สั่งพิจารณาลับแล้ว และให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกห้องพิจารณาคดี
.
ศาลอ่านคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดีลับ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมายืนบังที่กระจกไม่ให้มองเข้าไปด้านใน ศาลใช้เวลาประมาณ 10 นาที มีคำพิพากษาจำคุกจตุภัทร์เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากคำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือ จำคุก 2 ปี 6 เดือน
.
สำหรับมูลเหตุของคดีนี้ ในวันที่ 2 ธันวาคม 2559 เว็บไซต์บีบีซีไทยเผยแพร่บทความพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 จตุภัทร์หรือ 'ไผ่ ดาวดิน' แชร์บทความดังกล่าวบนเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยตั้งค่าเป็นสาธารณะให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ต่อมาในวันที่ 3 ธันวาคม 2559 จตุภัทร์ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมเดินธรรมยาตรากับพระไพศาล วิศาโล ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปตั้งข้อกล่าวหามาตรา 112 หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตามประมวลอาญา
.
วันที่ 4 ธันวาคม 2559 จตุภัทร์ถูกนำตัวไปฝากขังกับศาลจังหวัดขอนแก่นซึ่งศาลอนุญาตให้จตุภัทร์ประกันตัวในวันเดียวกันด้วยวงเงิน 400,000 บาท ต่อมาวันที่ 22 ธันวาคม 2560 ศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำสั่งให้ถอนประกันจตุภัทร์ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ โดยให้เหตุผลว่า จตุภัทร์โพสต์ข้อความ "เศรษฐกิจมันแย่แม่งเอาแต่เงินประกัน" รวมทั้งมีการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์เย้ยหยันอำนาจรัฐในสื่อสังคมออนไลน์ ไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองจนก่อให้เกิดความเสียหาย
.
นับตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2559 จตุภัทร์ถูกควบคุมตัวในเรือนจำมาโดยตลอด และได้ยื่นขอประกันตัวอีกอย่างน้อย 9 ครั้งและวางเงินประกันสูงสุด 700,000 บาทแต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง นอกจากนี้ศาลยังสั่งให้พิจารณาคดีนี้เป็นการลับตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่ชั้นไต่สวนคัดค้านคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นชั้นที่ไม่ได้มีการพูดถึงเนื้อหาหรือข้อความที่จตุภัทร์ถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 แต่อย่างใด
.
วันที่ 20 มกราคม 2560 จตุภัทร์เคยประท้วงการคำสั่งพิจารณาลับในการไต่สวนคัดค้านการฝากขังด้วยการเชิญทนายของตัวเองออกจากห้องพิจารณาคดี ขณะที่ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 แม่ของจตุภัทร์ก็เคยประท้วงคำสั่งพิจารณาลับด้วยการวิ่งชนกำแพงห้องพิจารณาคดี ขณะที่เพื่อนของจตุภัทร์เจ็ดคนซึ่งเคยแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่หน้าศาลจังหวัดขอนแก่นเพื่อคัดค้านการสั่งพิจารณาคดีลับและการไม่ให้ประกันตัวในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งในภายหลังเพื่อนของเขาถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า ละเมิดอำนาจศาลจากการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
.
ขณะที่ระหว่างการพิจารณาคดีศาลก็มีคำสั่งห้ามทนายจำเลยให้ข้อมูลหรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณาคดีนี้กับสื่อ นอกจากนี้เมื่ออัยการนำพยานโจทก์ที่เป็นรุ่นน้องของจตุภัทร์มาเบิกความต่อศาลก็มีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายมาคอยดูแลไม่ให้พยานคนดังกล่าวพูดคุยกับพ่อแม่หรือเพื่อนของจตุภัทร์คนอื่นๆที่มาสังเกตการณ์ด้วย
.
นับตั้งแต่ 22 ธันวาคม 2559 ที่จตุภัทร์ถูกถอนประกันจนถึงวันนี้ (15 สิงหาคม 2560) ซึ่งเขาให้การรับสารภาพ จตุภัทร์ถูกคุมขังรวม 237 วันเท่ากับว่าหากไม่ได้รับการลดโทษ จตุภัทร์จะต้องถูกคุมขังอีกประมาณ 1 ปี 10 เดือนจึงจะพ้นโทษ
.
นอกจากคดี 112 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น จตุภัทร์ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกทางการเมืองอีก 4 คดีได้แก่
1.คดีตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 จากการชูป้ายต้านรัฐประหารที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาที่ศาลทหารขอนแก่น (http://bit.ly/2vzrljJ)
2.คดีตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 จากการร่วมชุมนุมกับนักกิจกรรมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ที่กรุงเทพฯ คดีนี้ยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน (http://bit.ly/2wZDnke)
3.คดีตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 จากการจัดกิจกรรม "พูดเพื่อเสรีภาพ" รัฐธรรมนูญกับคนอีสานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งพนักงานสอบสวนนัดส่งผู้ต้องหาให้อัยการทหารจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 29 สิงหาคม 2560 (http://bit.ly/2uXVMwa)
4.คดีตามพ.ร.บ.ประชามติฯจากการแจกใบปลิวที่อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ (http://bit.ly/2uXEfUT)
.
อ่านคดีมาตรา 112 ของจตุภัทร์เพิ่มเติมที่นี่: http://bit.ly/2vWQbuY
....................................................
เสียใจจริงๆ ทำอะไรไม่ได้มากนัก
ที่ทำไปได้บ้างคือส่งจดหมายเป็นกำลังใจให้ไผ่ แชร์ข่าวบ้าง
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ไผ่เองก็คงอยากจะสื่อ เราจะไม่มีวันทอดทิ้งมันไผ
นั่นคือ "อย่าท้อแท้ จงมีความหวังแม้ในกระแสเชี่ยวและลมพายุรุนแรง"
เราจะไม่สิ้นหวังกับประเทศนี้ การที่คนอุทิศตนเอง การที่คนมีความพยายาม
และมีเจตนาที่แน่วแน่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้
ที่ทำไปได้บ้างคือส่งจดหมายเป็นกำลังใจให้ไผ่ แชร์ข่าวบ้าง
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ไผ่เองก็คงอยากจะสื่อ เราจะไม่มีวันทอดทิ้งมันไผ
นั่นคือ "อย่าท้อแท้ จงมีความหวังแม้ในกระแสเชี่ยวและลมพายุรุนแรง"
เราจะไม่สิ้นหวังกับประเทศนี้ การที่คนอุทิศตนเอง การที่คนมีความพยายาม
และมีเจตนาที่แน่วแน่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้
Atukkit Sawangsuk with Pai Jatupat.
เราอยู่ในประเทศที่คนไม่ได้ทำความผิดต้องสารภาพผิด เพราะไม่อย่างนั้นจะติดคุกไม่มีวันได้ออก
แต่ยังหลอกคนว่าประเทศนี้มีความยุติธรรม มีศีลธรรมอันดีงาม
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
สืบพยานคดี 112 'ไผ่ ดาวดิน' #3 : การตัดสินใจครั้งสำคัญ
.
วันนี้ (15 สิงหาคม 2560) ศาลจังหวัดขอนแก่นนัดสืบพยานคดีที่จตุภัทร์หรือ 'ไผ่ ดาวดิน' ถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ จากการแชร์บทความพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์บีบีซีไทยต่อเป็นวันที่ 3 บรรยากาศในห้องพิจารณาคดีวันนี้ผ่อนคลายลงบ้าง ศาลขึ้นบัลลังก์ในเวลาประมาณ 10.00 น. และพิจารณาคดีอื่นก่อนหลังจากนั้นจึงนำป้าย 'พิจารณาลับ' มาติดหน้าห้อง และขอให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องยกเว้นคู่ความและพ่อกับแม่ของจตุภัทร์ออกจากห้องพิจารณาคดี
.
ก่อนเริ่มการพิจารณา ศาลถามจตุภัทร์ว่ายืนยันจะสู้คดีหรือเปล่า เพราะนัดที่แล้วมีการตกลงกันว่าจตุภัทร์จะขอเวลาไปพิจารณาเรื่องแนวทางคดีอีกครั้ง ศาลระบุด้วยว่า การต่อสู้คดีนี้ให้ชนะเป็นเรื่องยาก เพราะองค์พระมหากษัตริย์ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ทีมทนายของจตุภัทร์จึงให้ตัวจตุภัทร์และครอบครัวปรึกษากับศาลเองก่อนจะออกจากห้องไป ขณะที่ศาลก็ขอให้อัยการออกไปรอนอกห้องก่อน
.
การพูดคุยระหว่างจตุภัทร์ ครอบครัว และศาลใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง พ่อของจตุภัทร์เล่าว่า ได้พูดคุยเรื่องความเป็นไปได้ของอัตราโทษหากจตุภัทร์ตัดสินใจรับสารภาพ เมื่อพูดคุยกันเสร็จพ่อกับแม่ก็ออกมาจากห้องเพื่อให้จตุภัทร์มีโอกาสทบทวนและตัดสินใจแนวทางคดีด้วยตัวเอง ขณะที่ศาลก็ออกไปปรึกษากันภายในองค์คณะนอกห้องพิจารณาคดี จตุภัทร์อยู่ในห้องพิจารณาคดีคนเดียวจนถึงเวลาประมาณ 11.00 ศาลก็กลับขึ้นบัลลังก์อีกครั้ง และคุยกับจตุภัทร์สองคน
.
จตุภัทร์ตัดสินใจยอมเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพต่อศาลในที่สุด ศาลสั่งพักการพิจารณาและให้กลับมาฟังคำพิพากษาในช่วงบ่าย
.
ในช่วงบ่าย บรรยากาศค่อนข้างผ่อนคลาย เพื่อนของจตุภัทร์และผู้มาให้กำลังใจราว 20 คนเข้ามานั่งรอฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดี ในเวลาประมาณ 16.00 น. ศาลกลับขึ้นบัลลังก์และแจ้งว่า คดีนี้ได้สั่งพิจารณาลับแล้ว และให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกห้องพิจารณาคดี
.
ศาลอ่านคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดีลับ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมายืนบังที่กระจกไม่ให้มองเข้าไปด้านใน ศาลใช้เวลาประมาณ 10 นาที มีคำพิพากษาจำคุกจตุภัทร์เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากคำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือ จำคุก 2 ปี 6 เดือน
.
สำหรับมูลเหตุของคดีนี้ ในวันที่ 2 ธันวาคม 2559 เว็บไซต์บีบีซีไทยเผยแพร่บทความพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 จตุภัทร์หรือ 'ไผ่ ดาวดิน' แชร์บทความดังกล่าวบนเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยตั้งค่าเป็นสาธารณะให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ต่อมาในวันที่ 3 ธันวาคม 2559 จตุภัทร์ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมเดินธรรมยาตรากับพระไพศาล วิศาโล ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปตั้งข้อกล่าวหามาตรา 112 หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตามประมวลอาญา
.
วันที่ 4 ธันวาคม 2559 จตุภัทร์ถูกนำตัวไปฝากขังกับศาลจังหวัดขอนแก่นซึ่งศาลอนุญาตให้จตุภัทร์ประกันตัวในวันเดียวกันด้วยวงเงิน 400,000 บาท ต่อมาวันที่ 22 ธันวาคม 2560 ศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำสั่งให้ถอนประกันจตุภัทร์ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ โดยให้เหตุผลว่า จตุภัทร์โพสต์ข้อความ "เศรษฐกิจมันแย่แม่งเอาแต่เงินประกัน" รวมทั้งมีการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์เย้ยหยันอำนาจรัฐในสื่อสังคมออนไลน์ ไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองจนก่อให้เกิดความเสียหาย
.
นับตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2559 จตุภัทร์ถูกควบคุมตัวในเรือนจำมาโดยตลอด และได้ยื่นขอประกันตัวอีกอย่างน้อย 9 ครั้งและวางเงินประกันสูงสุด 700,000 บาทแต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง นอกจากนี้ศาลยังสั่งให้พิจารณาคดีนี้เป็นการลับตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่ชั้นไต่สวนคัดค้านคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นชั้นที่ไม่ได้มีการพูดถึงเนื้อหาหรือข้อความที่จตุภัทร์ถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 แต่อย่างใด
.
วันที่ 20 มกราคม 2560 จตุภัทร์เคยประท้วงการคำสั่งพิจารณาลับในการไต่สวนคัดค้านการฝากขังด้วยการเชิญทนายของตัวเองออกจากห้องพิจารณาคดี ขณะที่ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 แม่ของจตุภัทร์ก็เคยประท้วงคำสั่งพิจารณาลับด้วยการวิ่งชนกำแพงห้องพิจารณาคดี ขณะที่เพื่อนของจตุภัทร์เจ็ดคนซึ่งเคยแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่หน้าศาลจังหวัดขอนแก่นเพื่อคัดค้านการสั่งพิจารณาคดีลับและการไม่ให้ประกันตัวในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งในภายหลังเพื่อนของเขาถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า ละเมิดอำนาจศาลจากการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
.
ขณะที่ระหว่างการพิจารณาคดีศาลก็มีคำสั่งห้ามทนายจำเลยให้ข้อมูลหรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณาคดีนี้กับสื่อ นอกจากนี้เมื่ออัยการนำพยานโจทก์ที่เป็นรุ่นน้องของจตุภัทร์มาเบิกความต่อศาลก็มีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายมาคอยดูแลไม่ให้พยานคนดังกล่าวพูดคุยกับพ่อแม่หรือเพื่อนของจตุภัทร์คนอื่นๆที่มาสังเกตการณ์ด้วย
.
นับตั้งแต่ 22 ธันวาคม 2559 ที่จตุภัทร์ถูกถอนประกันจนถึงวันนี้ (15 สิงหาคม 2560) ซึ่งเขาให้การรับสารภาพ จตุภัทร์ถูกคุมขังรวม 237 วันเท่ากับว่าหากไม่ได้รับการลดโทษ จตุภัทร์จะต้องถูกคุมขังอีกประมาณ 1 ปี 10 เดือนจึงจะพ้นโทษ
.
นอกจากคดี 112 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น จตุภัทร์ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกทางการเมืองอีก 4 คดีได้แก่
1.คดีตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 จากการชูป้ายต้านรัฐประหารที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาที่ศาลทหารขอนแก่น (http://bit.ly/2vzrljJ)
2.คดีตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 จากการร่วมชุมนุมกับนักกิจกรรมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ที่กรุงเทพฯ คดีนี้ยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน (http://bit.ly/2wZDnke)
3.คดีตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 จากการจัดกิจกรรม "พูดเพื่อเสรีภาพ" รัฐธรรมนูญกับคนอีสานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งพนักงานสอบสวนนัดส่งผู้ต้องหาให้อัยการทหารจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 29 สิงหาคม 2560 (http://bit.ly/2uXVMwa)
4.คดีตามพ.ร.บ.ประชามติฯจากการแจกใบปลิวที่อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ (http://bit.ly/2uXEfUT)
.
อ่านคดีมาตรา 112 ของจตุภัทร์เพิ่มเติมที่นี่: http://bit.ly/2vWQbuY
ที่มา iLaw
ที่มา : เพจไอ้พวกนักกิจกรรม
EmoticonEmoticon