"the old is dying and the new cannot be born"
“Men make their own history, but they do not make it as they please; they do not make it under self-selected circumstances, but under circumstances existing already, given and transmitted from the past. The tradition of all dead generations weighs like a nightmare on the brains of the living.And just as they seem to be occupied with revolutionizing themselves and things, creating something that did not exist before, precisely in such epochs of revolutionary crisis they anxiously conjure up the spirits of the past to their service, borrowing from them names, battle slogans, and costumes in order to present this new scene in world history in time-honored disguise and borrowed language.”
"มนุษย์เป็นผุ้สร้างประวัติศาสตร์ของตัวเอง แต่พวกเขาไม่สามารถทำตามใจชอบ เพราะพวกเขาไม่ได้ทำมันภายใต้สถานการณ์ที่เลือกได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีอยู่แล้วให้และเป็นผลมาจจากอดีตประเพณีของคนรุ่นที่ตายไปแล้ว ได้ส่งผลและมีน้ำหนักเสมือนฝันร้ายของผู้คนและเช่นเดียวกับที่พวกเขาดูเหมือนจะยุ่งอยู่กับการจัดการตัวเองและสิ่งต่าง ๆต่างๆ มากกว่าการจะดำเนินการทำให้เกิดการสร้างอนาคตหรือสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ในช่วงเวลาดังกล่าวของวิกฤตแห่งการปฏิวัติ เพื่อให้พวกเขาได้จดจำอย่างแม่นยำต่อจิตวิญญาณแห่งการต่อสุ้ในอดีต จึงทำให้พวกเขาต้องยืมชื่อ. สโลแกนต่อสู้, แม้กระทั่งเครื่องแต่งกาย ก็เพื่อนำเสนอสิ่งใหม่นี้ในประวัติศาสตร์โลก "
by Karl Marx
บททดลองนำเสนอ ว่าด้วย ทำไม ระบอบใหม่จึงไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้
จากคำกล่าวข้องต้น ของ มาร์ก และ กรัมซี่ และเมื่อวิเคราะห์กลับมาถึงการต่อสุ้ของ ขบวนการประชาชนหลังกการรปห. 2549 และ 2557 ว่า ทำไม ในเมื่อ ระบอบเก่ากำลังจะตาย แต่ ทำไม ระบอบใหม่ยังไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้
ผู้เขียนเชื่อว่า ที่ไม่สามารถพัฒนาทำให้เกิดสิ่ง(ระบอบ)ใหม่ได้ เป็นเพราะ
1. ไม่มีการขับเคลื่อนด้วยองค์กรประชาชนเอง
ที่ผ่านมา ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชน หากก้าวพ้นยุค นักศึกษา 14 ตุลาคม มาแล้ว ก็มีเพียง ขบวนการต่อสู้(อุดมการณ์แบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์) ของ พรรค คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่มีขบวนการขับเคลื่อนที่ชัดเจน หลังจากนั้น ขบวนการ(องค์กร) ภาคประชาชน ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างแท้จริง ซึ่งตรงข้ามกับ องค์กรของเครือข่ายรัฐพันลึก ที่มีการจัดตั้งทั้งเปิดเผย และไม่เปิดเผย ในการทวน(ต้าน) กระแสประชาธิปไตย อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเป็นระบบ โดยการชู "อุดมการณ์ราชาธิปไตย"เป็น ธงร่วม องค์การต้าน หรือ ทวนกระแสประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็น- กองทัพ โดยการนำ ของ แม่ทัพ นายกอง ที่เกาะกระแส "จงรัก ภักดี "เพื่อเข้าสุ่ความก้าวหน้าในตำแหน่ง- เครือข่ายรัฐของราชาธิปไตย เหนือรัฐ ที่เปิดเผย ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานองคมนตรี, โครงการพระราชดำริ, โครงการหลวง, มูลนิธิสายใจไทย, มูลนิธิป่ารอยต่อและ มูลนิธิต่างๆ ,สภากาชาดไทย- รัฐราชการ โดยระบบ "ข้าราชการ = ข้าแห่ง ราชา"- เครือข่าย ธุรกิจที่ผูกขาด และเชื่อมโยงกับ ราชวงศ์- เครือข่าย สื่อมวลชน ที่ใช้ เส้นสาย เชื่อมโยงกับ นายปีย์ มาลากุล- เครือข่าย ตุลาการ ที่เป็นหัวหอกสำคัญ ในการจัดการ เด็ดปีก ฝ่ายการเมืองที่แข็งขืน- เครือข่าย องค์กรอิสระ ที่เข้าต่างตอบแทน "เครือข่ายรัฐพันลึก" ในการเข้าสู่ตำแหน่ง- เครือข่าย ศิลปิน รวมถึงการสร้าง งานศิลปะ มามอมเมา ให้ยอมมอบกราบ และตายอย่าง จงรัก ภักดี
2. ไม่มีธงนำและเป้าหมายร่วม ในการต่อสู้ เรียกร้อง ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน
การขาดธงนำและเป้าหมายร่วมในการต่อสู้ ประเด็นนี้ เป็นประเด็นสำคัญ ทำให้การขับเคลื่อนไปข้างหน้า มีเป้าหมายพล่ามัว ไม่ชัดเจน ซึ่งตรงข้ามกับ ธงนำและเป้าหมายร่วมของ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่มีธง "อุดมการณ์ราชาธิปไตย"เป็น ธงร่วม และมีเครือข่าย "รัฐพันลึก" เป็น องค์การต้าน หรือ ทวนกระแสประชาธิปไตย ที่มีอำนาจเหนือรัฐบาล เหนือกองทัพ เหนือ หน่วยงานต่างๆ
3. ไม่มีการจัดตั้ง หน่วยระดับรากฐานของการต่อสู้ ทำให้ ขาดพลังกระจัดการะจาย
การไม่มีการจัดตั้ง องค์กรในระดับหน่วยเล็กสุดของภาคประชาชนอย่างแท้จริง ส่งผลให้เกิดการกระจัดกระจาย ในการต่อสู้ ไม่มีการรวมกลุ่ม กลายเป็นเซลล์ย่อย ไม่มีพลังที่จะขับเคลื่อนในการต่อสู้ ทำให้ขาดพลัง ไม่สามารถรับภารกิจใดๆ ได้ในทุกๆรูปแบบของการต่อสุ้
4. ติดกับดัก "ชุดความคิด" แบบเดิม
การติดกับดัก "ชุดความคิด" แบบเดิมของ การเมืองประชาธิปไตยในระบอบเดิม ผ่านการเลือกตั้ง ภายใต้การยินยอมของ ชนชั้นนำ(รัฐพันลึก) ส่งผลให้ถูก หลอกล่อ ด้วยรัฐธรรมนูญ "ปลอม" และการเลือกตั้ง "ปลอม" ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ส่งผลให้กำหนดยุทวิธีในการต่อสู้ผิดพลาด ครั้งแล้ว ครั้งเล่า
แนวทางแก้ไข เพื่อให้เกิด ระบอบใหม่ ที่ยั้งยืน ได้ โดย
- เริ่มสร้างการขับเคลื่อนด้วยองค์กรประชาชนเอง
- ให้มีธงนำและเป้าหมายร่วม ในการต่อสู้ เรียกร้อง ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน
- ให้มีการจัดตั้ง หน่วยระดับรากฐานของการต่อสู้ ทำให้ เกิดพลัง เพื่อไม่ให้กระจัดการะจาย
- ให้มีการสร้าง"ชุดความคิด" แบบใหม่
รายละเอียดขอ ยกไป ตอนต่อไป.....รวมถึง ภารกิจเร่งด่วน ของ ภาคประชาชน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จะเริ่มต้นการต่อสู้ ภายใต้ แนวคิดใหม่นี้ ได้อย่างไร?
EmoticonEmoticon