ใครเป็นใคร ใน รัฐพันลึก!
หนึ่งในกลไลและเครืองมือสำคัญ ในการบังคับกฎหมาย อย่างเฉียบขาด รวดเร็๋ว รุนแรง ก็คือ การใช้กฎหมายพิเศษ ทางการเงิน และต้องใช้คนที่เห็นหน้าก็รู้ใจ และหนึ่งในมือสังหารนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับรัฐพันลึกหรือขุมอำนาจเก่า ก็คือ คนคนนี้ พล.ต.อ. ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ที่มีประวัติอันเลื่องลั่น การในควบคุมการเคลื่อนไหวของ ประชาชนในพื้นที่ ภาคเหนือ จนมาถึงการเป็นประธานถอดดยศ ทักษิณ ชินวัตร และล่าสุด เป็นคนควบคุมคดีการฟอกเงินการทุจริตอนุมัติปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้อง
(สำนวนการเขียนที่ยกมาเป็นสำนวนฝ่าย ทหาร โปรดอ่านและพิจารณา)
ที่มาของการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหญ่ใน ปปง.ด้วย มาตรา 44........
การที่จะขุดรากถอนโคนไม้ใหญ่ที่ควรจะให้ร่มเงาที่สงบเย็นทิ้ง เพราะปล่อยให้กิ่งก้านแผ่ขยายไประรานผู้อื่นนั้น จำเป็นต้องใช้ คน และเครื่องมือที่มีความพร้อมอย่างที่สุด
ซึ่งวันนี้ก็ปรากฎเป็นที่ชัดเจนแล้ว ว่า การจะทำลายอิทธิพลอำนาจมืดในทางการเมืองที่ถูกฝั่งรากลึกมาร่วม 10 ปีโดยกลุ่มคนที่เป็นภัยต่อสังคมก็ต้องใช้คนที่กล้าหาญมาทำงาน
17 พฤษภาคม 2559 ราชกิจจานุเบกษาประกาศคำสั่ง หัวหน้าที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 24/2559 เรื่องแต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) คนใหม่
นั่นคือ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล จาก จเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้มารับตำแหน่งนี้และให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที โดยไม่จำเป็นที่ต้องรอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ความเห็นชอบ ดังข้อความต่อไปนี้
“ตามที่ผู้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ้นจากตําแหน่งเพราะครบวาระตาม กฎหมาย ซึ่งการสรรหาผู้ดํารงตําแหน่งดังกล่าวตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ยังไม่ได้ กําหนดจะต้องใช้เวลาอีกยาวนาน
ในขณะที่สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีภารกิจที่ต้องดําเนินการ โดยเร่งด่วนเพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศ การประเมินตามวงรอบ และการเร่งรัดการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นไป อย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้พลตํารวจเอก ชัยยะ ศิริอําพันธ์กุล พ้นจากตําแหน่ง จเรตํารวจแห่งชาติ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยไม่ต้องสรรหา
และให้รักษาราชการในตําแหน่ง และปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่คําสั่ง นี้ใช้บังคับเป็นต้นไป และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่แทนวุฒิสภาให้ความเห็นชอบต่อไป
ข้อ ๒ เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบตามข้อ ๑ แล้ว ให้นําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๕๘ และมาตรา ๒๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗
ข้อ ๓ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ”
พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอําพันธ์กุล จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้นี้ช่วงนั่งที่ปรึกษา สบ.10 เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับถอดยศนายทักษิณ ชินวัตร และคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีมติ 5 ต่อ 0 ให้ถอดยศนายทักษิณ ชินวัตร
หมายเหตุ: โปรดสังเกตุสำนวนการเขียนข่าว ข้างต้นให้ดี
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
การร่วมงานเคียงบ่า เคียงไหล่ กับ กปปส.
ในมิติการเมือง พล.ต.อ.ชัยยยะ มีความสนิทสนมกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างมาก ถึงขนาดมีข่าวลือว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆ แต่เจ้าตัวเคยยืนยันกับคนใกล้ชิดว่า สนิทกันเฉยๆ ไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา
จากงานที่เคยทำและความสนิทสนมกับแกนนำกลุ่มการเมืองขนาดใหญ่ ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเขาถูกโยงไปในเรื่องการเมืองแทบทุกครั้ง โดยเฉพาะในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ส่งเขาขึ้นไปดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 รับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ก็โชว์ผลงานจัดการคดีที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองหลายคดี มีการจับกุมมือยิงเอ็ม 79 และทำลายแผนป่วนครั้งใหญ่ในห้วงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อฟ้าเปลี่ยนสี รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามามีอำนาจ ชื่อของ พล.ต.อ.ชัยยะ ก็เงียบหายไป แต่เขาก็เติบโตในหน้าที่ราชการมาเรื่อยๆ กระทั่งมาปรากฏเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้งในยุค คสช. ช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) เมื่อได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการถอดยศตำรวจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสรุปด้วยมติเอกฉันท์ให้ถอดยศ จนนำไปสู่การออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ถอดยศอดีตนายกฯ กระทั่งกลายเป็น"นายทักษิณ" อย่างทุกวันนี้
ที่มา: อิสรา>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ภารกิจต่อไป คือ นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร
พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวถึงคดีฟอกเงิน จากการทุจริตอนุมัติปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องว่า ปปง.ได้ตรวจสอบข้อมูลทางแพ่งและธุรกรรมทางการเงินเสร็จสิ้นส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)พิจารณาแล้ว
"พร้อมทั้งเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างมีความชัดเจน ตามมติของคณะพนักงานสอบสวนแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นการดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น "พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวในที่สุด
ที่มา: คม ชัด ลึก
EmoticonEmoticon