เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว หลังมีการเผยแพร่เอกสารผ่านสื่อออนไลน์ว่ามีการตั้งธงสั่งให้แจ้งข้อกล่าวหานายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง
นายขจรศักดิ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนสำนวนคดีฟอกเงินการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับกลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร ที่มีการพาดพิงถึงนายพานทองแท้ โดยที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงาน เช่น ปปง. อัยการสำนักการสอบสวน และพนักงานสอบสวน กองคดีการเงินการธนาคาร ไปรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น เส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยจะเร่งรัดให้เร็วที่สุดเพราะคดีความใกล้จะหมดอายุความในปี 2561
“ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเรียกตัวนายพานทองแท้มาสอบสวนเพิ่มเติม ยืนยันว่าคณะพนักงานสอบสวนไม่ได้มีการตั้งธงในการสั่งฟ้องคดีใครเป็นพิเศษ เพราะการมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งต้องให้คำตอบกับสังคมได้ และมั่นใจว่าคดีนี้ไม่ได้มีการดึงสำนวนให้ล่าช้าจนหมดอายุความอย่างแน่นอน” นายขจรศักดิ์ กล่าว
ขณะที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เมื่อถูกถามถึงกรณีดังกล่าว โดยนายสุวพันธ์ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ให้ไปสอบถามกับพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ นอกจากนี้ เมื่อถามถึงกระแสข่าวการตั้งธงให้ดำเนินคดีกับนายพานทองแท้ นายสุวพันธ์เลี่ยงที่จะให้คำตอบ
ด้าน แหล่งข่าวระดับสูงจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า สำหรับการประชุมคดีฟอกเงินการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยฯนั้น ที่ประชุมมีมติสั่งให้แจ้งข้อกล่าวหานายพานทองแท้ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน โดยมีกรอบกำหนดระยะเวลาการทำคดีให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 เดือน ก่อนจะออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาเข้ามาชี้แจงแสดงพยานหลักฐานต่อไป
ที่มา:ข่าวสด
EmoticonEmoticon