ข้อหา "ละเมิดอำนาจศาล" และ "ข้อหาหมิ่นศาล"

ข้อควรรู้กับ กรณีข้อหา "ละเมิดอำนาจศาล" และ "ข้อหาหมิ่นศาล"


1. ข้อหาละเมิดอำนาจศาล

คดีนี้ ไม่ต้องมีผู้ร้องทุกข์ ไม่มีกระบวนการหรือขั้นตอนการสืบพยาน ศาลสามารถพิจารณาและตัดสินลงโทษเราได้ทันที และเราไม่สารถยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาได้ คดีสิ้นสุดที่ศาลชั้นต้น 
สรุปง่ายๆไม่มีช่องทางที่จะต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใดๆเลย

ข้อควรปฏิบัติ
-จงหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดความวุ่นวายทุกอย่าง (ระวังอย่าตกเป็นเหยื่อมือที่3) 
- ไม่พกพาอาุวุธเข้าไป ตรงนี้สำคัญมาก เพราะอาวุธไม่ได้จำกัดแค่ปืน หรือของมีคมต่างๆ แต่มันยังรวมไปถึงท่อนไม้ ท่อนเหล็ก หรือแม้แต่ก้อนหินหรือปากกา วัสดุสิ่งของเล็กน้อยที่เราคาดไม่ถึง(ภาษากฎหมายเขาเรียก ว่า อาวุธโดยการใช้ ) 
-ควรงดการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในบริเวณศาล เช่นการผูกผ้าดำ หรือ วางพวงหรีด หรือแม้แต่การเขียนข้อความเสียดสี หรือก้าวร้าวศาล 

โดยคดีละเมิดอำนาจศาลนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน6เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. ข้อหาหมิ่นศาล 

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงและระมัดระวังคือ 

- การดูหมิ่น วิจารณ์ พาดพิง ผลของคำพิพากษา ทั้งโดยการใช้วาจา และ การโพสต์ลงในโซเชียลเน็ทเวิร์คต่างๆ (ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกว่าคำพิพากษานั้นไม่ยุติธรรมแค่ไหนก็ตาม) 

โทษที่ระบุไว้คือ จำคุกขั้นต่ำ1ปี สูงสุดไม่เกิน7ปี ปรับ2,000-14,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น หากใครจะแสดงออก ในการวิพากษ์ วิจารณ์ คำพิพากษา  ขอให้ใช้เฟสอวตารและติดตั้ง VPN เอาไว้ให้เรียบร้อยเท่านั้น

ส่วนใครที่ไปบริเวณหน้าศาลฎีกาฯ  ช่วงนี้แดดร้อน และไข้หวัดใหญ่ระบาด  ก็ขอให้สวมใส่หมวกและใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก ป้องกันเชื้อโรค ให้เรียบร้อยนะครับ.......

อย่าประมาทนะครับ

>>>>>>>>>>>>>>>>

สำหรับการพิพากษาคดี ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ เจ้าหน้าที่ของศาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ปรึกษาหารือกันแล้ว มีความเห็นร่วมกันที่จะปรับเปลี่ยนเขตอำนาจศาล โดยขยายเพิ่มเติมจากเดิมที่กินระยะทางราว 50 เมตร ออกไป ส่งผลให้พี่น้องประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องมารวมตัวกันที่บริเวณลานหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ และลานหน้าอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งส่วนหน้าของศาลรัฐธรรมนูญ กระทรวงยุติธรรม 

และเมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายทางอากาศ โดย google map พบว่า บริเวณที่เจ้าหน้าที่ศาลจัดให้ประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจ อดีตนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น ห่างจากปากประตูทางเข้าศาลฎีกา ไปจนถึงจุดที่ประชาชนอยู่คือหน้าอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ติดกับกรมสอบสวนคดีพิเศษค่อนข้างมาก ซึ่งเชื่อว่าประชาชนบางส่วนอาจต้องให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรีห่างจากจุดเดิม ไม่น้อยกว่า 200 เมตร 

สุสิรา เมาเปลืองทรัพย์

1 hr · 

วันที่25นี้ สิ่งที่ซี่กังวล และเป็นห่วงพี่น้องมากๆ คือ กลัวจะไปโดนข้อหา "ละเมิดอำนาจศาล" และ "ข้อหาหมิ่นศาล"
มาเริ่มกันที่เรื่องการละเมิดอำนาจศาลก่อน คดีนี้ ไม่ต้องมีผู้ร้องทุกข์ ไม่มีกระบวนการหรือขั้นตอนการสืบพยาน ศาลสามารถพิจารณาและตัดสินลงโทษเราได้ทันที และเราไม่สารถยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาได้ คดีสิ้นสุดที่ศาลชั้นต้น สรุปง่ายๆไม่มีช่องทางที่จะต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใดๆเลย

จงหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดความวุ่นวายทุกอย่าง (ระวังอย่าตกเป็นเหยื่อมือที่3) ไม่พกพาอาุวุธเข้าไป ตรงนี้สำคัญมาก เพราะอาวุธไม่ได้จำกัดแค่ปืน หรือของมีคมต่างๆ แต่มันยังรวมไปถึงท่อนไม้ ท่อนเหล็ก หรือแม้แต่ก้อนหินหรือปากกา วัสดุสิ่งของเล็กน้อยที่เราคาดไม่ถึง(ภาษากฎหมายเขาเรียก ว่า อาวุธโดยการใช้ ) ควรงดการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในบริเวณศาล เช่นการผูกผ้าดำ หรือ วางพวงหรีด หรือแม้แต่การเขียนข้อความเสียดสี หรือก้าวร้าวศาล โดยคดีละเมิดอำนาจศาลนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน6เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาที่เรื่องการหมิ่นศาล (ข้อหานี้โทษสูงกว่าละเมิดอำนาจศาลเยอะนะคะ)
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงและระมัดระวังคือ การดูหมิ่น วิจารณ์ พาดพิง ผลของคำพิพากษา ทั้งโดยการใช้วาจา และ การโพสต์ลงในโซเชียลเน็ทเวิร์คต่างๆ (ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกว่าคำพิพากษานั้นไม่ยุติธรรมแค่ไหนก็ตาม) โทษที่ระบุไว้คือ จำคุกขั้นต่ำ1ปี สูงสุดไม่เกิน7ปี ปรับ2,000-14,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
กฎหมายคุ้มครองศาลเป็นกฎหมายที่ยิ่งใหญ่ครอบจักรวาลมาก ระวังกันด้วย อย่าเสี่ยงไปท้าทายเด็ดขาด!!
ไม่ได้พูดให้กลัว แต่อยากให้เพื่อนพ้องน้องพี่ ระมัดระวัง เพื่อรักษาอิสรภาพของตัวท่านเอง กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
ด้วยรักและห่วงใย