หากยอมรับการใช้กำลัง เท่ากับยอมรับว่า สังคมไทยยังเป็นสังคมป่าเถื่อน(มีคลิป)

จากกรณี อ.จุฬาล็อคคอนิสิต สะท้อนว่าสังคมไทยยังคงเป็นสังคมป่าเถื่อน !

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ในวันถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนิสิตใหม่ประจำปี 2560  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ประธานสภานิสิตจุฬาฯ ได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพิธี ซึ่งนิสิตใหม่ทั้งหมดต้องมาทำความเคารพถวายสัตย์ปฏิญาณ 

(ภาพการล็อคคอนิสิตจากด้านหลัง)

โดยตอนหนึ่ง นายเนติวิทย์ ระบุว่า “วันนี้เป็นวันถวายสัตย์ปฏิญญาณตนของนิสิตใหม่ประจำปี 2560 แทนที่จะเกิดความปีติ แต่กลับจัดงานอย่างผิดพลาด ตอนแรกสุดบอกว่าจะให้พื้นที่สำหรับคนยืนเคารพ 

(ภาพการล็อคคอและกระชากนิสิต)

รองอธิการบดีสัญญากับผมก่อนงานว่า ถ้าฝนตกจะให้เด็ก โค้งคำนับแล้วจบ เพราะเด็กจะเปียก จะเป็นไข้ได้ แต่เป็นว่าให้หมอบกราบถวายบังคมเหมือนเดิม พอฝนเริ่มตกหนักก็ยังแจกแผ่นกันฝนเล็กๆให้เด็ก แล้วก็ไม่พอด้วยหลายๆคนก็ยังต้องตากฝนอีกเพื่อหมอบกราบถวายบังคม ที่ไม่รู้เวล่ำเวลาหรือคิดถึงนิสิตใหม่

                                 

ในขณะที่พวกครูอาจารย์มีร่มเตรียมมา สภานิสิตและอบจ นั้นไม่มีร่มให้ เปียกโชก ผมทนไม่ได้ ผมกับเพื่อนหลายคน ซึ่งมีหลายเหตุผลด้วยกันจึงเดินออกมา นอกจากนี้ ยังมีอาจารย์มาทำร้ายร่างกาย ล็อคคอ กระชากดึงเพื่อนผม ด่าอย่างไม่น่าเชื่อว่าเป็นอาจารย์” ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวอย่างหนัก

"...เหตุการณ์นี้ ไม่ใช่ครั้งแรกในสังคมไทย ที่ยอมรับและปล่อยให้มีการใช้กำลังละเมิดร่างกาย ฝ่ายตรงข้าม  ราวกับเป็นเรื่องราวที่ยอมรับให้กระทำได้..."

หรือในกรณี การพยายามขัดขวางผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 2 กพ.54

เรื่องราวเหล่านี้ สะท้อนมุมคิด มุมมอง ของคนในสังคมไทย  ซึ่งการยอมรับการกระทำใดๆในสังคมใด สังคมหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะกลาย 

                              ค่านิยม บรรทัดฐานการปฏิบัติไปโดยปริยาย

หรือนี่พวกเรากำลังอยู่ในสังคมป่าเถื่อน กันจริงๆ ? ......