ไม่ว่าท่วงทำนอง “สัญจร”อย่างถี่ยิบจาก สงขลา ปัตตานี ตรังและลงเอยที่กาฬสินธุ์
สะท้อนความเข้มของ “สถานการณ์”
ไม่ว่าท่วงทำนองของ “บ้านสี่เสา เทเวศร์” ที่ประกาศเปิดประตูต้อนรับคสช.และรัฐบาลในห้วงปีใหม่
สะท้อนความเข้มของ “สถานการณ์”
ไม่ว่าการออกโรงแบบนิ่มๆของ นายชวน หลีกภัย ชี้ให้เห็นรายได้ที่ลดลงของ “ภาคใต้”
สะท้อนความเข้มของ “สถานการณ์”
เหมือนกับว่า “โหมด” แห่ง “การเลือกตั้ง” จะย่างสามขุมเข้ามาเป็นลำดับ
แต่เอาเข้าจริงๆกลับยังไม่ใช่
การออกโรงของ “ไอ้ห้อย ไอ้โหน”ในสนช.ที่ชี้ให้เห็นถึงการเลื่อนโรดแมป “เลือกตั้ง”ออกไปจากปี 2561
หลายคนอาจมองอย่างงุนงง ไม่แน่ใจ
แม้จะพอจับเบาะแสได้บ้างจากการตรวจจับอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดกลางทุ่งที่ฉะเชิงเทรา
แต่เมื่อกลายเป็น “กระสุนด้าน”ก็ยังไม่ชัด
พลันที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประสานมือกับ นายไพบูลย์ นิติตะวัน พุ่งเป้าไปยังการแก้ไขพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
ทุกคนก็ร้อง “ฮ้อ” ด้วยความพร้อมเพรียงกัน
เพียงชั่วเวลา “ตด”ยังไม่หายส่งกลิ่นก็มีเสียงขานรับจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายพรเพชร วิชิตชลชัย และในที่สุดคือ นายวิษณุ เครืองาม
โป๊ะเช๊ะ ลงตัว “ปฏิรูป”ก่อน “เลือกตั้ง”
ก็นายไพบูลย์ นิติตะวัน เสนอในนาม “เครือข่ายประชาชนปฏิรูป”มิใช่หรือ
ก็คำขวัญอันออกมาในระหว่างการเคลื่อนไหวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
คือ “ปฏิรูป”ก่อน “เลือกตั้ง” มิใช่หรือ
ในเมื่อการแก้ไขเพิ่มเติมพรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองเพื่อความเสมอภาค พรรคใหญ่ พรรคเล็ก พรรคเก่า พรรคใหม่ ก็ย่อมสะท้อนความชอบธรรม
ส่วนจะใช้เวลา “ปฏิรูป”นานสักเพียงใด ย่อมเป็นอีกเรื่อง
EmoticonEmoticon