อะไรก็ตามที่คนเขียนขึ้นมา กำหนดขึ้นมา จึงต้องถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงยกเลิกได้เสมอ ไม่มีทางอยู่ได้นิรันดร เพราะ มันเป็นสิ่งที่ถูกสร้าง ไม่ได้ดำรงตามธรรมชาติ ตรงกันข้าม อำนาจของมนุษย์ในการกำหนดสิ่งต่างๆตามเจตจำนงของตนต่างหากที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีอะไรหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดขวางกั้นได้
ทั้งหมดนี้ จึงขึ้นกับ "การเมือง"
มันไม่ใช่ "กฎหมาย" แต่เป็นเรื่อง "การเมือง" ที่เอา "กฎหมาย" มาเป็นหน้ากากเท่านั้น
ปัญหาสุดท้ายที่ต้องขบคิดพิจารณาต่อไป คือ ทำอย่างไร "ประชาชน" จะชนะทางการเมือง? และเมื่อไร "ประชาชน" จะชนะทางการเมือง? ..."
แม้หัวหน้า คสช ยังคงมีอำนาจตามมาตรา 44 อยู่ตามรัฐธรรมนูญ 60 จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งเข้าสู่ตำแหน่ง แต่ในทางความเป็นจริง มาตรา 44 ก็อ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ หากลองเทียบกับผลานุภาพของมาตรา 44 ในช่วงหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2557 ได้ไม่นาน หรือในช่วงปีแรกปีที่สองของ คสช ดู จะเห็นได้ว่า ณ วันนี้ ตกลงไปเยอะมาก
แน่นอน หัวหน้า คสช ยังคงใช้มาตรา 44 ได้ และรัฐธรรมนูญ 2560 ก็รับรองให้การใช้อำนาจตามมาตรา 44 นั้น ทั้งก่อนหน้าและหลังจากนี้ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ชอบด้วยกฎหมาย เป็นที่สุด มีผลได้ทั้งทางนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ทั้งชาตินี้จวบจนชาติหน้า แต่ในทางความเป็นจริง หัวหน้า คสช คงไม่กล้าใช้อำนาจตามมาตรา 44 พร่ำเพรื่ออีกแล้ว และต่อให้ใช้ความศักดิ์สิทธิ์ของมันก็ลดลงไปมาก
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึง
ประการแรก กฎหมายไม่ได้ดำรงอยู่ได้ด้วยตัวมันเองตามลำพัง แต่มันยังต้องมี "กำลัง" และ "ความชอบธรรม" สนับสนุนด้วย
ต่อให้ใครเสกกระดาษ เสกตัวอักษร เสกปืน เสกกำปั้น ให้กลายเป็น "กฎหมาย" ได้ มันจะเป็น "กฎหมาย" ได้จริง ก็ต่อเมื่อมีกำลังบังคับให้มันมีผลได้ หรือมีความชอบธรรมที่จะใช้มัน
ประการที่สอง "ขาลง" ของ คสช
ประการที่สาม ต่อให้มีการ "เสก" ให้ "ปืน" กลายเป็น "กฎหมาย" และ "เสก" ให้มันชอบไปชั่วกัลปาวสาน ชาตินี้ ยันชาติหน้า แต่สิ่งที่เสกเหล่านี้ จะอยู่ได้ ก็เพราะมีความชอบธรรมและกำลังสนับสนุน
เมื่อไรก็ตามที่ความชอบธรรมหมดไป กำลังสนับสนุน บ่มิไก๊ไร้น้ำยา เมื่อนั้น ไอ้ที่เสกๆไว้ ก็สามารถถูกเสกให้หายไปในพริบตาได้ทันที
อะไรก็ตามที่คนเขียนขึ้นมา กำหนดขึ้นมา จึงต้องถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงยกเลิกได้เสมอ ไม่มีทางอยู่ได้นิรันดร เพราะ มันเป็นสิ่งที่ถูกสร้าง ไม่ได้ดำรงตามธรรมชาติ ตรงกันข้าม อำนาจของมนุษย์ในการกำหนดสิ่งต่างๆตามเจตจำนงของตนต่างหากที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีอะไรหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดขวางกั้นได้
ทั้งหมดนี้ จึงขึ้นกับ "การเมือง"
มันไม่ใช่ "กฎหมาย" แต่เป็นเรื่อง "การเมือง" ที่เอา "กฎหมาย" มาเป็นหน้ากากเท่านั้น
ปัญหาสุดท้ายที่ต้องขบคิดพิจารณาต่อไป คือ ทำอย่างไร "ประชาชน" จะชนะทางการเมือง? และเมื่อไร "ประชาชน" จะชนะทางการเมือง?
EmoticonEmoticon